รักษาระดับ “เมลาโทนิน” ในร่างกาย ลดความเสี่ยง…โรคสมองเสื่อม

เมื่ออายุมากขึ้น ร่างกายที่เคยแข็งแรงก็จะเริ่มเกิดความเสื่อมขึ้น โดยปัญหาหนึ่งที่มักเกิดขึ้นกับกลุ่มผู้สูงอายุ ก็คือ “โรคสมองเสื่อม”
ผู้สูงอายุสามารถมีระดับเมลาโทนินที่สูงพอจะรักษาสุขภาพให้ดีได้ เนื่องจาก มีการสังเคราะห์เมลาโทนินโดยต่อมไพเนียลเป็นกระบวนการที่เกิดขึ้นในระบบประสาทของร่างกายอยู่แล้ว แต่ปัจจัยภายนอก ได้แก่ สิ่งแวดล้อม อาหาร และยา ก็มีผลเช่นกันโดย ยาบางชนิดมีผลต่อการลดระดับเมลาโทนิน เช่น ยาแก้ปวดบางชนิด ยารักษาโรคความดันเลือดสูง ยากล่อมประสาท วิตามินบี 12 กาเฟอีน ยาสเตียรอยด์
 
ส่วนอาหารที่มีผลในการเพิ่มระดับเมลาโทนิน คือ อาหารที่มีเมลาโทนินสูง อาทิ สาหร่ายสไปรูลิน่า ถั่วเหลือง หรือถั่วต่าง ๆ ในเรื่องนี้มีข้อควรระวัง คือ วัยที่ยังไม่ใช่วัยชรา โดยเฉพาะวัยรุ่น ซึ่งร่างกายจะมีการสร้างเมลาโทนินสูงเป็นปกติอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องเพิ่มระดับเมลาโทนินแต่อย่างใด เพราะหากมีระดับเมลาโทนินที่สูงเกินไป ก็อาจจะส่งผลโดยตรงต่อการทำงานของระบบสืบพันธุ์ได้ในอนาคต
พักผ่อนเพี่ยงพอออกกำลังกาย
1. ช่วยชะลอความเสื่อมของสมอง การออกกำลังกายช่วยเพิ่มออกซิเจนในเลือด ทำให้ระบบหมุนเวียนโลหิตดีขึ้น ส่งผลให้มีสมาธิ คิดและจดจำได้ดีกว่าคนที่ไม่ออกกำลังกาย
2. กล้ามเนื้อแข็งแรง กระดูกแข็งแรงหนาขึ้น เมื่อออกกำลังกายเป็นประจำจะทำให้กล้ามเนื้อส่วนต่าง ๆ ได้บริหาร จึงทำให้กล้ามเนื้อและกระดูกแข็งแรง
3. ผิวสวยไม่เหี่ยวย่น เพราะเวลาออกกำลังกายจะมีเหงื่อขับออกมา ถือเป็นการดีท็อกซ์ผิว ทำให้ผิวพรรณสดใสยิ่งขึ้น
4. ลดความเครียด ในระหว่างออกกำลังกายร่างกายจะหลั่งสารเอ็นโดรฟินหรือสารแห่งความสุขออกมา ทำให้รู้สึกสดชื่น นอกจากนี้การที่ร่างกายได้เคลื่อนไหว จิตใจก็ได้เคลื่อนไหวไปด้วย ทำให้ไม่หมกมุ่นอยู่กับเรื่องที่กังวลอยู่
5. ลดอาการท้องผูก การออกกำลังกายไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกายแบบเดินเร็ว วิ่ง ว่ายน้ำ ปั่นจักรยานจะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนโลหิตทำให้ระบบขับถ่ายได้ระบายของเสียและสารพิษออกจากร่างกาย และสุดท้าย
6. ทำให้หลับง่ายขึ้น เพราะการออกกำลังกายทำให้ร่างกายผ่อนคลาย ไม่เครียด จึงทำให้หลับได้ง่ายขึ้น
ถึงแม้ว่าการออกกำลังกายจะเป็นสิ่งที่ดีให้ประโยชน์ แต่ถ้าเราออกกำลังกายผิดวิธีก็อาจทำให้เกิดโทษได้เหมือนกัน ดังนั้นเราจึงควรเลือกวิธีออกกำลังกายให้เหมาะกับตนเอง โดยยึดหลักง่าย ๆ ดังนี้ ควรเคลื่อนไหวแต่ละท่าอย่างช้า ๆ ห้ามกระชาก หายใจเข้าออกตามปกติ ระวังอย่ากลั้นหายใจ อย่าฝืนหรือหักโหมเกินไป ไม่ควรให้มีอาการ ปวดหรือเจ็บใด ๆ ขณะที่กำลังออกกำลังกาย และเพื่อให้ได้ผลดีควรออกกำลังกายให้เป็นประจำและสม่ำเสมออย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 วัน วันละไม่ต่ำกว่า 30 นาที
เมื่อทราบคุณประโยชน์มากมายของการออกกำลังกายแบบนี้แล้ว อย่าลืมหาเวลาว่างเพื่อไปออกกำลังกายกัน และที่สำคัญควรเลือกรับประทานอาหารที่ดีมีประโยชน์ พักผ่อนให้เพียงพอ ทำงานอย่างมีความสุข และทำจิตใจให้ผ่องใสด้วยเพราะจะทำให้เรามีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงสมบูรณ์ทั้งร่างกายและจิตใจ ห่างไกลจากโรคภัยไข้เจ็บ รวมทั้งมีอายุที่ยืนยาวอีกด้วย.
 
Scroll to Top