เมลาโทนไหนดี | ผลข้างเคียงที่เลือกใช้อาหารเสริมเมลาโทนินมีขั้นตอนดังนี้
1.สังเกตว่ามีปัญหาในการนอนอย่างไร
2. เลือกเติมเต็มอาหารเสริมให้กับปัญหา
3. เริ่มต้นจากปริมาณที่ต่ำที่สุดก่อนเสมอ
4.ยี่ห้อเป็นอย่างสุดท้าย
อย่างแรกเราต้องรู้จักตัวเอง รู้ว่าตัวเองมีปัญหาในการนอนแบบไหนโดยยอมรับการแบ่งออกให้ได้ 2 กลุ่มหลักคือ
1.นอนยาก
2.นอนไม่ดีชอบตื่นกลางดึก
หากปัญหาของคุณคืออย่างแรก แนะนำให้ใช้อาหารเสริมเมลาโทนินแบบต่อเนื่องเร็ว เช่น อมใต้ลิ้น, เม็ดที่มีส่วนผสมของแคลเซียมเร็ว (Fast Dissolve), น้ำหยดกิน, ชงดื่มหรือสเปรย์
หากปัญหาของคุณคืออย่างหลัง แนะนำให้ใช้อาหารเสริมเมลาโทนินแบบม้านั่งช้า เช่น เม็ดที่มีส่วนผสมของคาร์โบไฮเดรตช้า (ละลายช้า), ครีมทาหรือแผ่นแปะ
สำหรับผู้ที่มีปัญหาทั้ง 2 อย่างก็ให้เลือกทั้ง 2 แบบคือ เบ็ตโตเร็วและเบ็ตโตช้า เช่น อมใต้ลิ้นและแท็บเล็ตชนิดต่อไปนี้ช้า (ละลายช้า), แท็บเล็ตที่มีเบต้าและเบต้าช้า (เร็ว) และละลายช้า), น้ำหยดกินและแผ่นแปะหรือสเปรย์และครีมทา
แบบที่ไม่แนะนำเลยคือแบบเยลลี่มักมีน้ำตาลเหลือกินแล้วยับยั้งการหลั่งของฮอร์โมน
ปริมาณที่ปาล์ม
เริ่มต้นจากปริมาณที่ต่ำที่สุดก่อนเสมอ (Dose of use) เราต้องการอาหารเสริมคือการเพิ่มปริมาณที่ขาดไม่เกินเพิ่มไปจนเกินที่ร่างกายต้องการ เหตุการณ์ที่ร่างกายต้องการ 100 สมองผลิตได้ 50 อาหารเสริมเติมไปอีก 50 ก็พอแล้วเฉลย หากเลือกใช้เมลาโทนินได้ถูกต้องเมื่อเทียบกับสิ่งที่สามารถละลายน้ำขับออกทางสปาได้ ขัดขวางการต้านอนุมูลอิสระที่สมองด้วย
ใช้เกินกว่าที่ต้องการ
อาการของการใช้เมลาโทนินเกินขนาดจะแสดงผลตรงกันข้ามที่อยากได้ แทนที่จะแก้ปัญหาการนอนหลับ ใช้ไปแล้วมีคุณภาพในการนอนที่ดีขึ้นกลับแย่ลง เนื่องจากรบกวนการทำงานปกติของฮอร์โมน อาการที่แสดงออกว่ามีการใช้เมลาโทนินเกินขนาด คือ
1.หัวใจเต้นเร็วกว่าปกติ
2.เหงื่อออก
3.นอนไม่หลับ ร่างกายเหมือนจะนอนแต่ข้างในตื่น
4.ฝันร้ายเป็นเรื่องเป็นราว
5.คลื่นไส้ เวียนหัว
6.หงุดหงิด วิตกกังวล
7.ปวดข้อ