เมลาโทนิน” กับ “สกินแคร์” คงเป็นสองคำที่ไม่มีใครคาดคิดว่าจะมีความเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกันได้ แต่เชื่อหรือไม่ว่าเมื่อไม่นานมานี้ “เมลาโทนิน” ได้กลายเป็นส่วนผสมที่ถูกพูดถึงอย่างมากมายในวงการความสวยความงาม เพราะไม่เพียงแต่ช่วยคุณสาวๆ ในเรื่องการนอนหลับแล้ว เมลาโทนินยังมีส่วนช่วยกระตุ้นกระบวนการสร้างสารต้านอนุมูลอิสระได้อีกด้วย ลองมาดูรายละเอียดกันสักหน่อยดีกว่าว่ามันดียังไง
มาทำความรู้จัก “เมลาโทนิน”
สาวๆ ส่วนใหญ่คงคุ้นเคยกับเมลาโทนินที่มาในรูปแบบเม็ดที่มีคุณสมบัติในการช่วยให้นอนหลับได้ง่ายขึ้น แต่จริงๆ แล้วเมลาโทนินเป็นฮอร์โมนที่ถูกผลิตจากสมองส่วนกลาง และช่วยการกระตุ้นการปรับเปลี่ยนระบบการตื่นการนอนของร่างกาย โดยในเวลากลางคืนที่ไม่มีแสงธรรมชาติ สมองจะถูกกระตุ้นโดยการเปลี่ยนแปลงของแสงให้หลั่งเมลาโทนินเพื่อสั่งการให้ร่างกายรู้สึกง่วงและอยากพักผ่อน เราจึงมักรู้สึกเหนื่อยและอ่อนล้าในช่วงเวลาเดิมๆ ในแต่ละวัน แต่นอกเหนือจากการควบคุมการนอนหลับแล้ว นักวิทยาศาสตร์ยังค้นพบหลักฐานที่ยืนยันได้ว่า “เมลาโทนิน” สามารถทำหน้าที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระได้อีกด้วย จึงทำให้ “เมลาโทนิน” เป็นอีกหนึ่งส่วนผสมที่ถูกนำมาใช้ในแวดวงสกินแคร์อย่างแพร่หลายในช่วงปีที่ผ่านมา (สยบ “ริ้วรอย” ด้วย “โพลีเปปไทด์”)
เมลาโทนิน” ดีต่อผิวพรรณอย่างไร?
ในทุกๆ วันผิวพรรณของเราถูกทำลายจากอนุมูลอิสระที่แฝงมาในรูปของมลภาวะและรังสี UV มีผลทำให้ผิวหนังของเราดูแก่และเหี่ยวย่นก่อนวัยอันควรหรืออาจร้ายแรงได้ถึงขั้นเป็นมะเร็งผิวหนังเลยทีเดียว แต่ร่างกายของเราก็สามารถสร้างสารต้านอนุมูลอิสระเพื่อลดความรุนแรงของความสูญเสียที่เกิดจากอนุมูลอิสระที่ว่า โดยอาศัยการช่วยเหลือของเอนไซม์ต้านอนุมูลอิสระ และตรงนี้แหละที่เจ้า “เมลาโทนิน” เข้ามามีบทบาทในการช่วยกระตุ้นกระบวนการผลิตเอนไซม์ที่ว่านี้ของร่างกาย
ใช้เมลาโทนินได้อย่างไรบ้าง?
เมลาโทนินทำงานร่วมกับส่วนผสมจำพวกที่ใช้ในการลบเลือนริ้วรอยได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็น Retinol หรือวิตามินซี ทั้งยังช่วยให้ Hyaluronic Acid ที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและความยืดหยุ่นทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น สาวๆ ส่วนใหญ่นิยมทาสกินแคร์ที่มีส่วนผสมของเมลาโทนินในช่วงก่อนนอนซึ่งเป็นช่วงที่กระบวนการซ่อมแซมและฟื้นฟูผิวกำลังทำงาน แต่ในเมื่อเมลาโทนินสามารถช่วยเพิ่มระดับของสารต้านอนุมูลอิสระได้ การทาในช่วงกลางวันที่ผิวต้องเผชิญกับฝุ่นควัน มลภาวะและแสงแดดก็น่าจะช่วยปกป้องผิวสวยของคุณและมีประโยชน์ไม่แพ้กับการทาในตอนกลางคืน
