ผลข้างเคียงจากอาหารเสริม “เมลาโทนิน”

อาหารเสริมเมลาโทนินมีส่วนช่วยในการนอนหลับ หากคุณนอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอหรือนอนหลับไม่มีคุณภาพ อาหารเสริมเมลาโทนินอาจเป็นทางเลือกหนึ่ง แต่อย่างไรก็ตามการกินอาหารเสริม เมลาโทนิน อาจมีความเสี่ยงและผลข้างเคียงบางอย่างเช่นกัน

เมลาโทนิน เมลาโทนินจากธรรมชาติ เมลาโทนิน
อาหารเสริมเมลาโทนิน

          เมลาโทนินคืออะไร

เมลาโทนินเป็นฮอร์โมนที่ควบคุมรอบการนอนหลับ (Cycles of sleep) โดยความมืดจะทำให้ร่างกายหลั่งสารเมลาโทนิน ซึ่งเป็นสัญญาณให้ร่างกายเตรียมตัวนอนหลับ ส่วนแสงสว่างจะลดการผลิตเมลาโทนิน และเป็นสัญญาณให้ร่างกายเตรียมตัวตื่นนอน สำหรับผู้ที่มีปัญหาการนอนหลับ อาจมีระดับเมลาโทนินในร่างกายน้อย การเพิ่มปริมาณเมลาโทนินด้วยการกินอาหารเสริม จึงอาจช่วยการนอนหลับได้ นอกจากการนอนหลับแล้ว เมลาโทนินยังมีบทบาทสำคัญต่อร่างกายดังต่อไปนี้

1.ป้องกันสารต้านอนุมูลอิสระในร่างกาย

2.ช่วยควบคุมความดันโลหิต อุณหภูมิร่างกาย และระดับฮอร์โมนคอร์ติซอล

3.มีส่วนช่วยในการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน

สำหรับอาหารเสริมเมลาโทนิน มีคุณสมบัติเช่นเดียวกับฮอร์โมนเมลาโทนินในร่างกาย นั่นคือมีส่วนช่วยในการนอนหลับ ช่วยปรับปรุงคุณภาพการนอนหลับ และเพิ่มช่วงเวลาในการนอนหลับ อย่างไรก็ตาม อาหารเสริมเมลาโทนินไม่มีประสิทธิภาพเทียบเท่ากับยานอนหลับ นอกจากนี้มีงานวิจัยที่แนะนำว่าอาหารเสริมเมลาโทนินอาจช่วยในการรักษาอาการนอนหลับผิดปกติ เช่น ชะลอช่วงการนอนหลับ (Sleep phase) บรรเทาอาการของโรคนอนไม่หลับและอาการเจ็ตแล็คได้ ซึ่งเมลาโทนินโดยปกติไม่เป็นอันตราย หากใช้ในเวลาสั้นๆ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ยังมีผลข้างเคียงบางประการจากการกินอาหารเสริมเมลาโทนิน

อาหารเสริมเมลาโทนิน

 ผลข้างเคียงของอาหารเสริมเมลาโทนิน

  1. อาจส่งผลต่อฮอร์โมนเมลาโทนินในร่างกาย

แพทย์บางคนกังวลว่า การกินอาหารเสริมเมลาโทนินอาจลดการทำงานของฮอร์โมนเมลาโทนินตามธรรมชาติ แต่การศึกษาในระยะสั้นยังไม่พบผลกระทบของการกินอาหารเสริมเมลาโทนิน กับการทำงานของฮอร์โมนเมลาโทนินตามธรรมชาติในร่างกาย

  1. ผลข้างเคียงที่พบบ่อยจากการกินอาหารเสริมเมลาโทนิน

หลายงานวิจัยรายงานว่า อาการที่เป็นผลข้างเคียงหลังจากการกินอาหารเสริมเมลาโทนิน ได้แก่ 1.ปวดหัว 2.วิงเวียนศีรษะ 3.คลื่นไส้ 4.ง่วงนอน

นอกจากนี้ยังมีอาการที่ไม่ได้พบบ่อย แต่อาจเป็นหนึ่งในผลข้างเคียงจากการกินอาหารเสริมเมลาโทนิน ได้แก่ รู้สึกซึมเศร้าในช่วงเวลาสั้นๆ รู้สึกกังวล ปวดท้อง รู้สึกหงุดหงิด ไม่ตื่นตัว สับสนหรือเวียนศีรษะ และความดันโลหิตต่ำผิดปกติ

อาการง่วงนอนตอนกลางวัน
  1. อาจทำให้มีอาการง่วงนอนตอนกลางวัน

อาหารเสริมเมลาโทนินมีส่วนช่วยในการนอนหลับ จึงควรกินก่อนเวลาเข้านอน เนื่องจากการกินอาหารเสริมเมลาโทนินในตอนกลางวัน อาจทำให้เกิดอาการง่วงนอนได้ ดังนั้น คุณจึงไม่ควรขับรถหรือใช้เครื่องจักร ภายในเวลา 5 ชั่วโมงหลังจากกินอาหารเสริมเมลาโทนิน แต่อย่างไรก็ตามมีการศึกษาที่พบว่า การกินอาหารเสริมเมลาโทนิน หรือการฉีดเมลาโทนินเข้าสู่ร่างกายในช่วงเวลาระหว่างวัน ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อความสามารถในการรักษาสมาธิ นอกจากนี้ยังมีงานวิจัยที่มีกลุ่มตัวอย่างคือผู้ที่มีสุขภาพดี ที่ได้รับการฉีดเมลาโทนินเข้าสู่ร่างกาย 10 หรือ 100 มิลลิกรัม หรือการกินอาหารเสริมเมลาโทนิน 5 มิลลิกรัม ผลการวิจัยพบว่าไม่มีผลกระทบต่อเวลาในการเกิดปฏิกิริยา ความสนใจ ความเข้มข้น หรือประสิทธิภาพในการขับขี่ เมื่อเปรียบเทียบกับกลุ่มที่ได้รับยาหลอก

การลดอุณหภูมิร่างกาย
  1. การลดอุณหภูมิร่างกาย

เมลาโทนินอาจทำให้ร่างกายมีอุณหภูมิลดลง ซึ่งอาจเป็นปัญหาในผู้ที่ร่างกายมีปัญหาในการรักษาความอบอุ่นของร่างกาย

อาหารเสริมเมลาโทนินอาจเกิดปฏิกิริยากับยาบางชนิด
  1. อาหารเสริมเมลาโทนินอาจมีปฏิกิริยากับยาบางชนิด

อาหารเสริมเมลาโทนินอาจเกิดปฏิกิริยากับยาบางชนิด ได้แก่ ยานอนหลับ มีงานวิจัยที่พบว่าการกินยานอนหลับโซลพิเดม (Zolpidem) กับเมลาโทนิน ทำให้เกิดผลข้างเคียงจากยาโซลพิเดมต่อความทรงจำและการทำงานของกล้ามเนื้อ

ยาต้านการแข็งตัวของเลือด (anticoagulants) และยาต้านเกล็ดเลือด (anti-platelet drugs) ยากันชัก (Anticonvulsants)

ยาคุมกำเนิด ยารักษาโรคเบาหวาน ยาลดภูมิคุ้มกัน  (immunosuppressants) ยาวาฟาริน (Warfarin) เมลาโทนินอาจลดการแข็งตัวของเลือด ดังนั้น ในกรณีที่คุณกินยาวาฟาริน (Warfarin) หรือยาเจือจางเลือด (Blood thinner) คุณควรปรึกษาคุณหมอก่อนกินอาหารเสริมเมลาโทนิน

ผู้ที่ไม่ควรกินอาหารเสริมเมลาโทนิน
  1. ผู้ที่ไม่ควรกินอาหารเสริมเมลาโทนิน

ผู้หญิงตั้งครรภ์ และผู้หญิงที่กำลังให้นมบุตร การกินอาหารเสริมเมลาโทนินมีแนวโน้มว่าไม่ปลอดภัย ทั้งการกินเมลาโทนินและการฉีดเมลาโทนินเข้าสู่ร่างกายในช่วงตั้งครรภ์ ส่วนผู้หญิงที่กำลังให้นมบุตร ยังไม่มีหลักฐานมากพอที่จะยืนยันความปลอดภัยในการใช้เมลาโทนินขณะให้นมบุตร

การใช้เมลาโทนินในเด็ก เมลาโทนินมีแนวโน้มว่าจะไม่ปลอดภัยสำหรับเด็ก หากกินหลายครั้งในช่วงเวลาสั้นๆ เนื่องจากอาจกระทบกับฮอร์โมนอื่นๆ ในร่างกาย และอาจรบกวนพัฒนาการของร่างกายในช่วงที่เป็นวัยรุ่น

  1. อาหารเสริมเมลาโทนินกับอาการโรค

โรคซึมเศร้า เมลาโทนินสามารถทำให้อาการของโรคซึมเศร้าแย่ลง

โรคเบาหวาน เมลาโทนินอาจเพิ่มน้ำตาลในเลือดในผู้ที่เป็นโรคเบาหวาน ดังนั้น จึงควรระวังระดับน้ำตาลในเลือดหากคุณเป็นผู้ป่วยโรคเบาหวานและกินอาหารเสริมเมลาโทนิน

โรคความดันโลหิตสูง เมลาโทนินสามารถเพิ่มความดันโลหิตในผู้ที่กินยาที่ควบคุมความดันโลหิตได้ ดังนั้น จึงควรหลีกเลี่ยงการกินเมลาโทนินหากคุณเป็นโรคความดันโลหิตสูง

การปลูกถ่ายอวัยวะ เมลาโทนินสามารถเพิ่มการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน และอาจรบกวนการการรักษากดภูมิคุ้มกันของผู้ที่ปลูกถ่ายอวัยวะ

ภาวะเลือดออกผิดปกติ เมลาโทนินอาจทำให้อาการเลือดออกแย่ลงในผู้ที่มีภาวะเลือดออกผิดปกติ

วิธีกินอาหารเสริมเมลาโทนิน

วิธีกินอาหารเสริมเมลาโทนิน

อาหารเสริมเมลาโทนินควรกินในประมาณ 1-10 มิลลิกรัมต่อวัน อย่างไรก็ตาม อาหารเสริมเมลาโทนินแต่ละผลิตภัณฑ์ไม่เหมือนกัน ดังนั้น จึงควรอ่านฉลากอย่างละเอียดก่อนกิน นอกจากนี้ผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่ไม่แนะนำให้เด็กและวัยรุ่นกินอาหารเสริมเมลาโทนิน จนกว่าจะมีหลักฐานเพิ่มเติมที่ยืนยันว่า อาหารเสริมเมลาโทนินปลอดภัยสำหรับเด็กและวัยรุ่น

เพิ่มเมลาโทนินด้วยวิธีธรรมชาติ

คุณสามารถเพิ่มระดับฮอร์โมนเมลาโทนินโดยไม่ต้องกินอาหารเสริมเมลาโทนินด้วยวิธีดังนี้

ก่อนเข้านอนควรหลีกเลี่ยงการดูทีวี การใช้คอมพิวเตอร์หรือโทรศัพท์

ปิดไฟในเวลานอน เนื่องจากการมีแสงไฟมากเกินไปสามารถลดการทำงานของสารเมลาโทนินในสมอง ซึ่งจะส่งผลต่อการนอนหลับ

Scroll to Top