เมลาโทนิน ช่วยให้นอนหลับได้หรือไม่ ปัจจุบันด้วยภาวะโรคระบาด ภาวะเศรษฐกิจต่าง ๆ ส่งผลให้คนมีความเครียดจนก่อเกิดอาการนอนไม่หลับ หลับยาก หลับๆ ตื่นๆ พักผ่อนไม่เพียงพอ จนกลายเป็นปัญหาสุขภาพส่งผลกระทบต่อการดำรงชีวิต บางคนการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมยังไม่สามารถช่วยให้นอนหลับได้จึงเลือกที่จะใช้ตัวช่วยโดยการรับประทานยาหรือฮอร์โมนทดแทนเพื่อช่วยบรรเทาปัญหานอนไม่หลับ ฮอร์โมนนั้นคือเมลาโทนิน
เมลาโทนิน (Melatonin) เป็นฮอร์โมนที่สังเคราะห์มาจากกรดอะมิโนทริปโตเฟน (Tryptophan) ที่ต่อมไพเนียล (pineal gland) ในสมอง โดยมีความมืดเป็นตัวกระตุ้นให้หลั่งเมลาโทนินเข้าสู่กระแสเลือดและจะหยุดหลั่งเมื่อเจอแสงสว่าง โดยร่างกายจะเริ่มหลั่งเมลาโทนินออกมาตั้งแต่ช่วงที่พระอาทิตย์ตกดินทำให้คนเรารู้สึกง่วงและระดับฮอร์โมนเมลาโทนินจะคงอยู่ในกระแสเลือดประมาณ 10 – 60 พิโคกรัมต่อมิลลิตร (pg/mL) ติดต่อกัน 12 ชั่วโมง ก่อนที่ระดับฮอร์โมนเมลาโทนินจะลดลงตอนเช้า จนกระทั่งถึงเวลาประมาณ 9.00 น. ระดับเมลาโทนินในร่างกายจะลดต่ำลงจนวัดระดับไม่ได้
เมลาโทนินเหมาะกับใคร ?
เนื่องจากเมลาโทนินมีคุณสมบัติเป็นตัวช่วยในการคงการหลับ (maintain sleep) ซึ่งจะทำให้ง่วงหรือหลับเร็วจึงเหมาะกับกลุ่มคนดังต่อไปนี้
1.บุคคลที่มีอาการนอนหลับผิดเวลา หรือ delayed sleep phase syndrome ซึ่งเป็นความผิดปกติด้านการนอนหลับ คือไม่สามารถนอนหลับได้ก่อนเวลา 2.00 น. และมักมีปัญหาในการตื่นนอนตอนเช้า
2.บุคคลที่เป็นโรคนอนไม่หลับ (insomnia)
3.บุคคลที่มีปริมาณเมลาโมนินต่ำเกินไปเนื่องจากเกิดภาวะเจ็ทแลค (jet lag) หรือทำงานเป็นกะ (shift work)
4.ผู้สูงอายุ เนื่องจากเมื่ออายุมากขึ้นร่างกายจะผลิตเมลาโทนินได้น้อยลง ส่งผลให้เวลานอนของผู้สูงอายุโดยเฉลี่ยแล้วลดน้อยลงและประสบกับปัญหานอนไม่หลับบ่อยครั้ง เมลาโทนินจึงช่วยเพิ่มคุณภาพในการนอนหลับ และระยะเวลาในการนอนหลับที่ดีมากขึ้น