สำหรับอาหารเสริมเมลาโทนินมักมีปริมาณสูงกว่าที่ร่างกายผลิต และยังไม่มีข้อมูลมากพอเกี่ยวกับผลข้างเคียง การใช้อาหารเสริมเมลาโทนินมีความปลอดภัยสำหรับคนส่วนใหญ่ แต่ยังไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับความปลอดภัยระยะยาวสำหรับอาหารเสริมที่มีเมลาโทนิน
สิ่งที่ควรจำ:
- การเกิดปฏิกิริยากับยา
อาหารเสริมทุกชนิด คนทุกคนที่รับประทานยาควรปรึกษาแพทย์ก่อนการใช้เมลาโทนินเสมอ โดยเฉพาะในคนที่เป็นโรคลมชักและคนที่รับประทานยาเจือจางเลือด จำเป็นต้องได้รับการแนะนำภายใต้การดูแลของแพทย์เมื่อรับประทานอาหารเสริมเมลาโทนิน
- อาจเกิดความเสี่ยงต่อการเกิดปฏิกิริยาภูมิแพ้
- ข้อควรระวังสำหรับหญิงตั้งครรภ์และหญิงให้นมบุตร
ยังไม่มีการวิจัยเรื่องของความปลอดภัยในการใช้เมลาโทนินในหญิงตั้งครรภ์หรือหญิงให้นมบุตร
- ข้อควรระวังสำหรับผู้สูงอายุ
การแนะนำของ The American Academy of Sleep Medicine เมื่อปี 2015 ได้บอกไว้ว่าห้ามใช้เมลาโทนินกับคนที่มีภาวะสมองเสื่อม
- เมลาโทนินอาจออกฤทธิ์ในผู้สูงอายุได้นานกว่าคนวัยหนุ่มสาวและอาจเป็นสาเหตุทำให้เกิดอาการง่วงนอนตลอดทั้งวันได้
- ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวอาจไม่ถูกแจ้งเป็นส่วนประกอบอยู่ในรายการบนฉลาก
- อาหารเสริมเมลาโทนินบางชนิดอาจไม่มีบอกในส่วนประกอบบนฉลากผลิตภัณฑ์ จากการศึกษาเมื่อปี 2017 ได้มีการตรวจสอบอาหารเสริมเมลาโทนินที่แตกต่างกันทั้ง 31 ชนิดที่ซื้อมาจากร้านค้าทั่วไปและร้านขายยา พบว่าอาหารเสริมส่วนใหญ่มีจำนวนเมลาโทนินในผลิตภัณฑ์ไม่ตรงกับรายชื่อมันฉลากผลิตภัณฑ์ อีกทั้งยังพบว่าอาหารเสริมกว่า 26 เปอร์เซ็นต์มีเซโรโทนินเป็นส่วนประกอบ เซโรโทนินคือฮอร์โมนที่อาจส่งผลเป็นอันตรายแม้จะมีเพียงน้อยนิดก็ตาม
ผลข้างเคียงของเมลาโทนินคืออะไร
เรื่องของความปลอดภัยในการใช้อาหารเสริมเมลาโทนินพบว่ามีผลข้างเคียงน้อยมาก เช่น:
1.ปวดศีรษะ
2.วิงเวียนศีรษะ
3.คลื่นไส้
4.ง่วงนอน