เมลาโทนิน ตัวช่วยในการนอนหลับที่ได้ผลเมลาโทนิน เป็นฮอร์โมนที่ช่วยในการนอนหลับ มีแพทย์แนะนำให้ใช้ ช่วยในการแก้ปัญหาการนอนหลับโดยไม่มีอันตรายมากเท่าสารอื่นๆ แต่ อ.ย.จัดเป็นยาควบคุม
![LUKKME Melatonin](https://www.labdeepsleep.com/wp-content/uploads/2023/01/LUKKME-Melatonin-11-770x1024.jpg)
เมลาโทนิน ช่วยในการนอนหลับ
เมลาโทนิน (Melatonin) คือ ฮอร์โมนของร่างกายที่สร้างขึ้นจากต่อมไพเนียล โดยมีหน้าที่สำคัญในร่างกายของเรา ช่วยปรับเวลาในการนอนของเราให้ตรงตามเวลาที่ควรจะเป็น
ร่างกายจะเริ่มหลั่งสารนี้ออกมาตั้งแต่ช่วงที่พระอาทิตย์ตกดิน และร่างกายจะมีระดับของเมลาโทนินสูงสุดในช่วงหนึ่งตอนกลางคืน ทำให้เรานอนหลับได้ตามเวลานอนประจำ
ความมืดจะกระตุ้นการหลั่งสารเมลาโทนิน แสงสว่างจะยับยั้งการหลั่งเมลาโทนิน
![](https://www.labdeepsleep.com/wp-content/uploads/2023/05/แสงสีฟ้า-อันตรายมั้ย.jpg)
การได้รับแสงสีฟ้า เช่น แสงจากหน้าจอโทรศัพท์มือถือ จะสามารถยับยั้งหรือชะลอการหลั่งเมลาโทนินได้ ซึ่งเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้คนที่เล่นมือถือก่อนนอนหลับยาก เพราะระดับเมลาโทนินน้อยเกินไป
ผู้สูงอายุมีแนวโน้มที่พบการหลั่งเมลาโทนินลดลง จึงทำให้พบภาวะนอนหลับยากที่สัมพันธ์กับอายุได้ มีการทดลองว่าผู้ที่อายุตั้งแต่ 55 ปีขึ้นไป นอนหลับได้ดีขึ้นเมื่อได้รับเมลาโทนิน
![](https://www.labdeepsleep.com/wp-content/uploads/2023/05/jet-lag-2.jpg)
ผู้ที่มีปัญหาจากเจ็ทแลค จากการเดินทางโดยเครื่องบินนานๆ การทานเมลาโทนินจะช่วยให้ร่างกายปรับเวลานอนที่เหมาะสมได้ดีขึ้น
การนอนหลับที่มีคุณภาพนั้นต้องเกิดการนอนแต่ละชนิดในระยะเวลาที่เหมาะสม โดยเฉพาะ REM ซึ่งเป็นช่วงที่มี
ความสำคัญต่อการพัฒนาของสมอง (brain development) การเกิด neuronal plasticity การเก็บความจำ (memory
consolidation) และการควบคุมอารมณ์ การนอนหลับในช่วง REM จัดเป็น restorative sleep คือทำให้ได้การนอนหลับที่
มีคุณภาพ ตื่นมาด้วยความสดชื่นและรู้สึกว่าได้นอนเต็มอิ่ม ดังนั้นในผู้ที่มีปัญหานอนไม่หลับและจำเป็นต้องใช้ยารักษานั้น
หลักการที่สำคัญประการหนึ่งของการเลือกยาที่มีประสิทธิภาพคือ ยาชนิดนั้นต้องไม่มีผลลดการนอนในช่วง REM
บทบาทของเมลาโทนินในการควบคุมวงจรการหลับ-ตื่น
เมลาโทนินถูกสังเคราะห์จากต่อมไพเนียล (pineal gland) ฮอร์โมนชนิดนี้มีบทบาทสำคัญในการควบคุมสรีรวิทยาของการนอนหลับและวงจรการหลับ-ตื่น (sleep-wake cycle) โดยจะมีการหลั่งออกมามากในตอนกลางคืนและมีระดับต่ำในช่วงกลางวัน ระดับสูงสุดในพลาสมาของเมลาโทนินจะเกิดในช่วงเวลาประมาณ 2.00 น. ถึง 3.00 น.
ซึ่งเป็นช่วงที่มีการหลับลึก เมลาโทนินออกฤทธิ์เหนี่ยวนำให้เกิดการนอนหลับโดยการกระตุ้น melatonin 1a (MT1) และ melatonin 1b (MT2) receptors ซึ่งพบหนาแน่นที่ suprachiasmatic nucleus (SCN) ของ hypothalamus’0 การกระตุ้น MT2 receptor จะช่วยในการควบคุม circadian rhythm ส่วนการกระตุ้น MT1 receptor จะทำให้การทำงานของSCN ลดลง โดย SCN ซึ่งปกติใช้ gamma-aminobutyric acid (GABA) เป็นสารสื่อประสาทจะส่งสัญญาณประสาทไปยัง sleep-promoting nucleus (ventrolateral preoptic nucleus; VLPO) ผ่านทาง dorsomedial hypothalamus (DMH)เมื่อ SCN ทำงานลดลง จึงลดการหลั่ง GABA ไปที่ VLPO เมื่อ GABA ซึ่งเป็นสารสื่อประสาทชนิดยับยั้ง มีปริมาณลดลง จึงส่งผลให้ VLPO ถูกกระตุ้นและเข้าสู่การนอนหลับ (เปิด sleep gate) ได้ในที่สุด”
![](https://www.labdeepsleep.com/wp-content/uploads/2023/05/ดาวน์โหลด-1.jpg)
เมลาโทนิน ปลอดภัย แต่มีข้อเสีย
เมลาโทนิน เป็นฮอร์โมนเสริม จัดว่าปลอดภัยสูงกว่ายานอนหลับ ไม่พบอาการติด และไม่พบผลข้างเคียงที่รุนแรง มีเพียงการง่วงซึมบ้าง จึงควรเลี่ยงการใช้ระหว่างเดินทาน
เมลาโทนินไม่ใช่ยานอนหลับ ไม่ถึงกับได้ผลทันทีที่ทาน และบางคนที่ยังมีภาวะเครียด เจ็บปวดร่างกาย อาจไม่สามารถนอนหลับได้จากการทานอาหารที่มีส่วนผสมของเมลาโทนิน
การกินถึงเกินปริมาณที่กำหนด 3mg, 5mg, 10mg ก็ไม่ได้ส่งผลเสียมากนัก แค่อาจเกินความจำเป็นต่อร่างกายเท่านั้น แต่การกินต่อเนื่องแสดงว่านอนไม่หลับ ควรปรึกษาเภสัชกร หรือแพทย์เพื่อรักษาที่ต้นเหตุดีกว่า
มีผลกับยาบางตัว เช่น ยารักษาโรคเบาหวาน, ยาต้านการแข็งตัวของเลือด ยากันชัก จึงควรปรึกษาแพทย์ก่อนรับประทาน